วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สนุกกับงานและเรื่องหลากหลาย

วันนี้เป็นวันอันวุ่นวาย แม้จะตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์ปลุกให้ทราบถึงข่าวดี ข่าวของผลงานแปลที่เป็นที่ถูกใจนักจัดรายการวิทยุ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า รู้สึกอย่างไรกับข่าวดีที่ว่ากันแน่ จากนั้นไม่นาน น้องชายสุดที่รักก็โทรมาบอกข่าวดีที่สอง มีบทความเขียนถึงหนังสือที่ฉันแปลในผู้จัดการออนไลน์ ข่าวดีสองข่าวมาในวันเดียวกันเลยนะเนี่ย ทำให้การประชุมของเหล่าพลพรรคสำนักพิมพ์นำไปสู่การจัดพิมพ์มินิบุคเล่มสอง ซึ่งฉันก็คิดว่าจะทำนานแล้วแหละ แต่เมื่อได้ข่าวดีและจะมีงานมหกรรมหนังสือ เหล็กต้องตีตอนร้อนๆ ฉันเลยติดต่อประสานงานให้มีการจัดรูปเล่มและจัดพิมพ์ให้ทันการ ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคุณนุ้ยหรือคุณจ้อกต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้งานเร่งด่วนน่าจะสำเร็จได้ทันตามที่กำหนดไว้

หมู่นี้ฉันไม่ค่อยได้อัพบล้อกเลย เพราะมีการงานสารพัดถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต บางครั้งก็หวั่นใจเพราะไม่เคยต้องดูแลงานหลายๆ งานมากเท่านี้มาก่อน แต่ก็อีก ด้วยความโชคดีที่มีผู้ร่วมงานและผู้ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทำให้ยังพอจัดการงานต่างๆ ได้อยู่

พร่งนี้ก็อีก ฉันก็หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว มีรูปแบบความคิดที่แตกต่าง ก่อให้เกิดการค้นคว้า หาข้อมูล เพื่อเรียนรู้อะไรๆ ที่มันไม่ใช่ฟิลด์ของฉันเล้ย แต่ก็เลือกจะทำ ชีวิตจะตื่นเต้น ไม่จืดชืดก็ตรงนี้แหละ สร้างสีสรรให้เหลือเกิน

จริงๆ แล้วมีรูปที่ถ่ายจากงานต่างๆ และเรื่องราวญาติพี่น้องที่ฉันอยากจะถ่ายทอด ขอว่างๆ สักวันมานั่งเลือกรูป แล้วจะขยายให้ฟังนะจ้ะ

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551

สบตา...แอนเดรีย สวอเรซ

เธอ เคยรู้ ไหมว่า ใคร
เฝ้า มองตาม แต่เธอ ไป ทุกแห่ง
เก็บเธอ เป็นแรง ให้ใจ ทุก-วัน
เก็บไว้ มานาน
หาก ได้อยู่ ใกล้ใกล้ เธอ
ฉัน จะบอก กับเธอ ให้รู้-ใจ
สบตา กับฉัน ลึกลง ข้างใน
ก็จะ เข้าใจ ความหมาย
เห็นเงา ใน-ตา ฉันไหม
เห็นเธอ อยู่-ใน นั้นไหม
รู้ใจ กัน บ้างไหม
ว่าฉัน นั้นคิด อะไร
เห็นเธอ มานาน รู้ไหม
ไม่เคย มองใคร ที่ไหน
ขอเพียง สักครั้ง แค่หัน-มา
สบตา ครั้งเดียว ก็-พอ
เพียง บอกฉัน ด้วย สาย-ตา
คิด ยังไง บอกมา ให้รู้-บ้าง
ไม่หวัง ให้เธอ ต้องเดิน-ร่วม ทาง
แค่เธอ เข้าใจ
(อยาก ให้เธอ รู้ใจ)
(อยาก ให้อยู่ เป็นแรง ของใจ)
(เก็บความ รู้สึก ที่ดี มากมาย)
(เก็บไว้ ให้เธอ คนเดียว เรื่อยไป)
(อยาก ให้เธอ รู้ใจ)
(อยาก ให้อยู่ เป็นแรง ของใจ)
(เก็บความ รู้สึก ที่ดี มากมาย)
(เก็บไว้ ให้เธอ คนเดียว เรื่อยไป)
หาก ได้อยู่ ใกล้ใกล้ เธอ
ฉัน จะบอก กับเธอ ให้รู้-ใจ
สบตา กับฉัน ลึกลง ข้างใน
ก็จะ เข้าใจ ความหมาย
เห็นเงา ใน-ตา ฉันไหม
เห็นเธอ อยู่-ใน นั้นไหม
รู้ใจ กัน บ้างไหม
ว่าฉัน นั้นคิด อะไร
เห็นเธอ มานาน รู้ไหม
ไม่เคย มองใคร ที่ไหน
ขอเพียง สักครั้ง แค่หัน-มา
สบตา ครั้งเดียว
เห็นเงา ใน-ตา ฉันไหม
เห็นเธอ อยู่-ใน นั้นไหม
รู้ใจ กัน บ้างไหม
ว่าฉัน นั้นคิด อะไร
เห็นเธอ มานาน รู้ไหม
ไม่เคย มองใคร ที่ไหน
ขอเพียง สักครั้ง แค่หัน-มา
สบตา ครั้งเดียว
เห็นเงา ใน-ตา ฉันไหม
เห็นเธอ อยู่-ใน นั้นไหม
รู้ใจ กัน บ้างไหม
ว่าฉัน นั้นคิด อะไร
เห็นเธอ มานาน รู้ไหม
ไม่เคย มองใคร ที่ไหน
ขอเพียง สักครั้ง แค่หัน-มา
สบตา ครั้งเดียว ก็-พอ

Happy 80th Birthday to Aunt Jin


หนึ่ง สตรีดีเด่นที่ความคิด
ใน ดวงจิตคิดถึงแต่ผู้อื่น
ร้อย พันวันผันเปลี่ยนแต่ยั่งยืน
คือ วันคืนคุณป้ามาดูแล
จิ ปาถะนานาเรื่องสารพัด
หว่างนัดพบหมอก็ยังแคร์
ภา หนูกับแม่ให้ปรับรับซึ่งกัน
ขอ วันนี้วันที่ฉันนั้นอวยพร
คุณ พระวอนทวยเทพที่ปกปักษ์
ป้า แสนรักจิตสดใสไร้เรื่องทุกข์
มี แต่สนุกเชียร์เทนนิสมิตรมาหา
ความ ดีป้าส่งผลลบต่อโรคา
สุข เข้าหายาไม่เพิ่มกลับเติมพลัง
ใจ ถ้าหวังสิ่งใดไม่มีไม่ได้เอย
ดูคนมางานวันเกิดป้าจิร

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

วันเสาร์กับคนวันเสาร์

วันนี้ไม่ได้มีการวางแผนอะไรที่เป็นไปตามแผน...

เป็นวันที่เริ่มต้นด้วยคำถาม "where you go?" เมื่อมีคำถามก็ต้องหาคำตอบ

คำตอบมีอยู่หลายคำตอบ แม้ว่าก่อนการตกลงจะเป็นคำตอบหนึ่ง บางนกแขวก แต่แล้วก็จบด้วย บ้านสวนริมคลอง!!

เมื่อคืน ฉันเพิ่งอ่านหนังสือ อิหร่านในรอยจำ เปรียบเทียบการเดินทางกับความรัก หากระมัดระวัง คิดรอบคอบถี่ถ้วนก็อาจไม่ได้เริ่มเดินทางซะที ถ้าเป็นความรักก็คงไม่ได้เปิดโอกาสหรือลองรักใครกับเขาสักที

อ่านแล้วก็ เอ้อ เข้าท่าแฮะ บางครั้งการเดินทางก็เพื่อให้ถึงจุดหมาย จนลืมนึกถึงเหตุการณ์หรือสิ่งที่พานพบระหว่างทาง ความสุขอาจมาจากสิ่งที่พบเห็นระหว่างทาง แทนที่จะสุขหรือทุกข์เมื่อถึงจุดหมายหรือทราบผลของความสัมพันธ์ ฉันก็คิดอย่างนั้นนะแหละ เลยทำให้กล้าที่จะลองทำอะไรประหลาดๆ (อีกแล้ว) เริ่มด้วยการไปดูที่ในกรุงเทพ ไปกินข้าวเที่ยงกับแม่ และต่อด้วยทริปดูที่แถวร่มเกล้า คุยไปคุยมา คนฟังได้ความรู้เรื่องการจับโจรปล้นบ้าน การตามของที่ใครๆ บอกว่ายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่แม่ฉันงมเจออะ ว่าไงล่ะ

คนวันเสาร์สองคนเจอกันในวันเสาร์ วันที่คนเสาร์คนหนึ่งใส่เสื้อม่วงสะพายกระเป๋าม่วง วันที่การแซวหรือกัดกลับกลายเป็นการพูดเข้าหูคนที่ไม่เคยพูดแล้วเข้าหูเลย ฤทธิ์ดาวก็เป็นอย่างนี้เอง เวลาดวงมันไม่ดี พูดให้ดียังไงก็ถูกมองในแง่ไม่ดี แต่พอคราวดวงดี ตั้งใจกัดแต่คนก็เข้าใจว่ายอ

ให้มันได้อย่างนี้สิ

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

อันว่า มาแต่ชื่อ

เพิ่งมีคนเตือนให้ฉันนึกถึงที่มาของชื่อนี้ synnnie ทำไมต้องมี n 3 ตัว เพราะมีคนใช้เอ็นสองตัวไปแล้ว (กำปั้นทุบดินเกินไปมั้ยเนี่ย) จริงๆ แล้วมีเพื่อนสมัยเรียนเพียงคนเดียวที่เรียกฉันว่า ซินนี แล้วคนอื่นๆ ก็เรียกว่า ซิน เพื่อนเรียกอย่างนี้ตั้งแต่สมัยที่ฉันไม่รู้ว่า sin แปลว่า บาป พอมีเพลงฮิต It's a sin ก็เหมือนจะกลายเป็นชื่อของฉันโดยปริยาย ถ้าเป็นเพื่อนสมัยเรียนจะเรียกชื่อนี้ ส่วนญาติหรือเพื่อนที่ทำงานจะมีอีกสองชื่อ คือ ชื่อเล่นจริงๆ และชื่อเล่นที่ฉันตั้งขึ้นเอง เมื่อตอนที่ตัดสินใจเปลี่ยน "รหัสชีวิต" ใหม่ ชื่อก็เหมือนรหัส แล้วฉันก็สังเกตเห็นความแตกต่างเมื่อใช้ชื่อเก่ากับชื่อใหม่ แถมเอาการตลาดมาเกี่ยวข้องด้วยว่าเปรียบเสมือนการ rebranding

ฉันไม่ได้เขียนบล้อกมานานทีเดียว ตั้งแต่เริ่มคิดว่าบางเรื่องไม่ควรเขียนในบล้อกที่คนติดตามผลงานของฉันจะมาอ่านเจอ เพราะคนที่ติดตามผลงานฉันก็อยากให้รับรู้เรื่องเกี่ยวกับงานซะเป็นส่วนใหญ่ ไอ้การที่ฉันมีหลากแนว หลายมุม ทำให้คนรอบข้างประหลาดใจและออกจะงงๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้มันเป็นแบบไหนกันแน่ ฉันก็ได้แต่หวังว่า คนที่มีโอกาสได้เห็นมุมต่างๆ ของฉันมากที่สุด จะยอมรับฉันอย่างที่ฉันเป็นได้ ไม่ใช่กลัวจนหนีหาย ก็เท่านั้นละค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

สิ่งที่มากับสายฝน


เมื่อวันฝนพรำ รถติดเป็นตังเม เงยหน้าเหลือบไปเห็นพระบรมราโชวาท 4 บรรทัด แม้ว่ารถจะเริ่มวิ่งได้บ้างแล้ว แต่ฉันก็รีบคว้าน้องชมพูคู่ใจขึ้นมาถ่ายแชะ ก่อนกลับรถตรงหัวเลี้ยวหน้าตึกอาคารสำนักงานใหญ่เดิมของธนาคารกสิกรไทย ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะมองเห็นผ่านหยดน้ำฝนรึเปล่า คร่าวๆ ก็คือว่า การทำความดีนั้นต้องทำถูกหลักวิชา ถูกหลักของความสุจริตและความแผ่เมตตาด้วย
การทำความดีไม่ถูกที่น่ะ ไม่รู้อยู่ข้อไหนล่ะเธอ

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

แล้วเวลาก็บอกอะไรๆ กับฉัน


บ้านหลังนี้ยังไม่หลุดลอย... แม้มันจะห่างไกลความเป็นของฉันออกไปเรื่อยๆ

ว่าที่เจ้าของบ้านใจดียังเต็มใจให้ไปเยี่ยมเยือนแลกกับค่าแรงทำเว็บ (เพื่อชาติ) อีกครั้ง บ้านดูแตกต่างแต่ก็ยังคงเป็นบ้านเดิม เฟอร์นิเจอร์บิวด์อินทำให้ดูลงตัวมากขึ้น การจัดวางและเรียงเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ดูจะเหมาะกับพื้นที่จำกัดของกระท่อมน้อยหลังนี้ ไม่เหมือนสมัยที่มันเป็นของฉันเต็มตัว และเต็มไปด้วยของๆ ยัยบ้าสะสมอย่างฉัน

ต้นเฟิร์นหน้าบ้านงอกงามกว่าเดิม เลื้อยโตมาจนใต้บันไดบ้านที่มีตั้งสองขั้น สวย ธรรมชาติ บ้านนี้มีความเป็นธรรมชาติและเรียบร้อยขึ้นเมื่อไม่มีฉัน...


โต๊ะไม้สักโดนแดดและไอเค็มเสียจนเป็นโต๊ะไม้ธรรมชาติจริงๆ สีที่เคลือบหายไปจนไม่เหลือคราบเดิม เหลือแต่รูปทรง ความเป็นไม้ ตัวตนที่แท้จริงของมัน ฉันอาจจะขัดตา ขัดใจเล็กน้อย ที่เห็นน้ำในบ่อปลาน้อยและปลาดูจะแคระแกรน ทำท่าจะบ่นว่า ปลาขาดน้ำ ขาดอาหารรึเปล่านั่น แต่ก็อีก ดูจะเป็นความจงใจ ทำให้ฉันจ๋อยไปอีกตามเคย


ต้นไม้ใหญ่ทางขวาสุดของภาพหายไปด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง ฉันเป็นผู้หญิง ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ควรให้ใครๆ มองเข้ามาเห็น แต่อาชีพ "ตรวจตรา" ทำให้ต้นไม้ใหญ่หายไป ปล่อยโล่งรับลม เพศที่แตกต่าง ไม่ต้องกลัวภยันตรายอย่างเพศฉัน ต้นไม้เติบใหญ่ หมากออกลูก (ตั้งสองช่อแน่ะ) เกือบขอไปจัดดอกไม้แล้วเนี่ย สำหรับฉันแล้วดอกและผลหมากนำมาแต่งใส่แจกันดอกไม้ประดับบ้านได้เหมาะสมที่สุด ทั้งงาม ธรรมชาติและอยู่ทน (ตามธรรมชาติ)

สิ่งแปลกใหม่ที่ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก คือบาร์รับลมพร้อมตู้เย็น (รับลม) อีกเหมือนกัน ตู้เย็นที่เสียแล้ว นำมาใช้ประโยชน์สุดเก๋ เป็นชั้นวางลำโพง เครื่องเล่นแผ่นเสียง แก้วน้ำ อุปกรณ์การดื่ม


เก๋ อย่างที่ฉันว่า ใช่มั้ยละเธอ

ตู้เย็นใบนี้ตั้งอยู่ด้านหลังตัวบ้าน ข้างๆ กับห้องเก็บอุปกรณ์วินเซิร์ฟใหม่ที่เฮียหมายสร้าง เดิ๊นนะเธอ มีหน้าต่างกระจก โบกพื้นปูนด้วย


ตัวเคาน์เตอร์บาร์ที่วางอยู่หน้าตู้เย็น ออกจะแข็งแรงคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ แถมเป็นตู้เก็บของและตู้นอนสำหรับขี้เมาชาววินเซิร์ฟได้อย่างสบายๆ บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยอะไรๆ ที่เกี่ยวกับวินเซิร์ฟ ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และเกี่ยวกับการดื่ม หมดแล้วบ้าง ยังทำให้เมาได้อยู่ (บ้าง)


อีกแล้ว เป็นความลงตัวของบรรยากาศยามค่ำคืนของเสียงเพลง ของโลกทันสมัย อยู่ไม่ห่างไกลจากธรรมชาติที่อยู่ด้วยความสุขสบาย ทูอินวันอย่างที่ฉันฝันใฝ่


นั่งฟังเจ้าของบ้านคนใหม่เล่าเรื่องราวที่มาที่ไป เหตุผลมากมายเบื้องหลังสิ่งที่เลือกมาตกแต่ง ปรับแปลงพื้นที่โดยรอบ รูปแบบความสัมพันธ์กับคนรอบตัว


การที่ฉันห่างหายจากวงการไปกว่าครึ่งปีทำให้เห็นอะไรๆ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน


แต่ก็ด้วยถ้าเจ้าของบ้านไม่เล่าให้ฟังโดยละเอียดว่าทำอะไรไปบ้าง ฉันก็ไม่รู้หรอกว่า มีความพยายามใดบ้างที่ใส่ลงไปเพื่อให้ได้ผลอย่างที่เห็น เพราะความพยายามมักจะไม่เท่ากับผลเสมอ อีกทั้งยังมากกว่ามากอีกด้วย

ฟ้าใสเหนือบาร์เปลือย (ข้างฝา) รับลม ต้นหูกวางแผ่สยายให้ร่มเงาสำหรับนั่งดื่มแบบชิล ชิล เอาซะจนคนอัพบล้อกง่วงนอนไปเลย
























เทพเจ้าแห่งลม Tikki จ้า